Tuesday, August 07, 2012

[บทสัมภาษณ์] Funny, Sexy Ploy (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์)


[บทสัมภาษณ์]




Women's Health Thailand
สัมภาษณ์ปก Issue July 2011
เรื่อง Tiktok  / ช่างภาพ ธนนนท์ ธนากรกานต์ / สถานที่ Hidden Stuff@Ekamai 22 โทร.0-2391-4625
แต่งหน้า กมล ฉัตรเสน / ทำผม สุพิสุทธิ์ อินเรือง / สไตลิสต์ วชิรปาณี มากดี / ผู้ช่วยสไตลิสต์ ศิริพรรณ มั่นสุข



Funny, Sexy Ploy

อิ่ม มนต์ รัก ไปกับ พลอย เฌอมาลย์


                ในวันที่ท้องฟ้ากรุงเทพฯ เป็นสีฟ้าสดใส Women’s Health มีนัดหมายถ่ายรูปและพูดคุยกับนักแสดงสาวคนดังของ พ.ศ. นี้ เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ หรือที่ใครต่อใครเรียกขานเธอสั้นๆ ว่า พลอย สาววัย 28 ปีที่ฝีมือการแสดงแก่กล้าขึ้นทุกวัน 

                เธอปรากฏตัวด้วยเชิ้ตขาวและกระโปรงสีม่วงเปรี้ยว พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนหวานและหน้าตาอิ่มเอม เธอดูดีจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือนักแสดงสาวที่งานชุกที่สุดคนหนึ่งของวงการบันเทิง แค่ปีนี้ปีเดียว เธอมีหนังและละคร 6 เรื่อง (ทั้งที่ฉายไปแล้ว และกำลังจะถ่ายทำ) นี่ยังไม่นับงานนอกเหนือจากการแสดงอย่างงานถ่ายแบบเดินแบบอีก แน่นอนล่ะว่า สาวร่างสูง 168 เซนติเมตรคนนี้ต้องมีเคล็ดลับดีๆ ในการดูแลตัวเองมาฝากเราอย่างแน่นอน อย่ารอช้า ไปสนทนากับเธอกันเลยดีกว่า







อิ่มเอมกับงานและการดูแลตัวเอง

                ใครๆ ก็รู้ว่าพลอยงานยุ่งแค่ไหน เห็นถ่ายหนังและถ่ายละครตลอดเวลา เราสงสัยจังเลยว่าเธอไปเอาพลังจากไหนมาทำงานเยอะแยะนะ “จริงๆ พลอยก็เหนื่อยนะคะ” เธอเล่าพลางหัวเราะเสียงใส “แต่พลอยรักงานแสดง รู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้ทำงาน เพราะการแสดงมันท้าทายเราตลอดเวลา ทุกครั้งที่นับ 5-4-3-2-1- แอ็กชั่น พลอยจะกลายเป็นอีกคนไปเลย สนุกดี แล้วยิ่งคนยอมรับในสิ่งที่เราทำ เรายิ่งหายเหนื่อย แต่ถ้าเหนื่อยมากๆ พลอยจะพักผ่อน หาเวลานอนและให้เวลากับตัวเอง วันว่างๆ ชอบไปขัดผิว นวดตัว ทำสปามือและเท้า คือทำตัวเองให้สวย เขาจะเรียกว่า วันซ่อม ซ่อมร่างกายและผิวพรรณ” เธอยิ้มสดใส ก่อนเล่าต่อว่า “ออกกำลังกายก็ทำประจำค่ะ ที่คอนโดฯ มีฟิตเนส ก็จะวิ่ง ว่ายน้ำ แล้วก็มียกเวตบ้างนิดหน่อย แต่วิ่งนี่หลังๆ เบาๆ ลงแล้ว เพราะว่าเจ็บเข่า

                “ส่วนเรื่องกินนี่พลอยชอบกินนะคะ เหมือนสาวๆ หลายคนแหละ แต่พลอยมีกฎในการกินให้กับตัวเอง คือไม่ได้ถึงกับกินอาหารเมนูเพื่อสุขภาพอะไรเคร่งครัดมาก เพราะเรากินในกองถ่าย บางครั้งจะเลือกมากก็ไม่ได้ แต่พลอยจะเน้นเรื่องกินผลไม้ เรียกว่าพลอยกินผลไม้เป็นของว่างเลย อีกอย่างไม่ค่อยกินขนม กาแฟดำก็ดื่มแบบไม่ใส่น้ำตาล แล้วก็งดแป้ง มื้อเดียวที่จะกินแป้งคือมื้อเช้า แล้วก็หลีกเลี่ยงอะไรที่ไม่ดีต่อสุขภาพ พวกของทอดของมัน หนังไก่ทอด หรือของทอดที่เป็นคราบดำๆ เมื่อก่อนพลอยชอบกินลูกชิ้นทอดหรือหมึกย่างข้างถนนมาก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ซื้อกินแล้ว เพราะมันเต็มไปด้วยควันรถและมีสารตะกั่วเกาะ กลัวตายค่ะ” ประโยคตอนท้ายเธอเน้นเสียงด้วย เหมือนจะตอกย้ำว่าเธอกลัวจริงๆ

                “เคล็ดลับของพลอยคือ ควรกินให้เป็นเวลา และกินอาหารที่มีประโยชน์ อ้อ! อีกอย่างที่พลอยถือเป็นกฎเหล็กเลยก็คือ อย่ากินเกิน 1 ทุ่ม” ข้อนี้ฟังดูแล้วเหมือนจะทำได้ยาก สำหรับคนที่เลิกงานกองถ่ายตั้ง 4-5 ทุ่มอย่างเธอ แต่เรายืนยันว่าเธอทำได้จริง แถมยังมีวินัยกับกฎเหล็กข้อนี้ของเธอมากๆ เพราะเราเคยชวนเธอกินหลัง 1 ทุ่มแล้วเธอปฏิเสธ “ไม่ล่ะค่ะ เดี๋ยวพลอยหาอะไรเบาๆ กินเองแล้วกัน” เธอตอบเสียงใส “คือหลัง 1 ทุ่มนี่ พลอยจะกินผลไม้ โยเกิร์ตไขมันต่ำแทน แต่จะไม่กินข้าว ที่ต้องมีวินัยกับกฎเหล็กตรงนี้ เพราะว่าเราเป็นคนรูปร่างใหญ่ง่าย เนื่องจากคุณแม่เป็นลูกครึ่ง เราเลยได้เชื้อแบบฝรั่งมาด้วย ถ้ากินข้าวตอนดึกๆ จะอ้วนง่าย เมื่อก่อนทำงานทั้งวัน กว่าจะเลิกกองกินข้าวมื้อแรกได้ก็ตอน 3 ทุ่ม น้ำหนักเลยพุ่ง แต่ตอนนี้เราพยายามกินให้ตรงเวลา และห้ามกินหลัง 1 ทุ่ม”







สมาธิและชีวิตต้องมนต์

                ระหว่างที่กำลังขะมักขะเม้นกับการถ่ายปกเล่มนี้อยู่นั้น เราเห็นพลอยนัดแนะกับพี่ บ.ก. ของเราเรื่องจะไปวัดด้วยกันในวันหยุด เราเลยอดไม่ได้ที่จะถามเธอถึงเรื่องธรรมะ, การสร้างสมาธิ และการรับมือกับปัญหาของเธอ

                “พลอยว่าทุกคนก็ผูกพันกับหลักธรรมะอยู่แล้วละค่ะ พลอยถูกปลูกฝังให้เข้าวัดตั้งแต่เด็ก เรียกได้ว่าผูกพันกับพุทธศาสนาในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้แก่กล้าหรือเคร่งครัดขนาดนั้น เรายังเป็นมนุษย์โลกอยู่ ยังต้องทำงาน มีเรื่องให้ปวดหัวคิดมากรายวัน ก็เข้าวัดบ่อยๆ แต่เทียบไม่ได้กับคนที่เขาปฏิบัติจนขาวสะอาดจริงๆ หรอกค่ะ” เธอเว้นจังหวะไปนิดนึงก่อนเสริมต่อ “สิ่งที่ธรรมะให้เราก็คือ สมาธิ ยิ่งเล่นหนังเล่นละครต้องมีสมาธิ สมาธิใช้กับการแสดงได้เยอะค่ะ เช่น มีสติ อยู่กับปัจจุบัน ไม่อยู่กับอนาคต

                “คำว่าอยู่กับปัจจุบัน ใช้กับหน้าที่การแสดงคือ ใจเราอยู่กับบทตรงนี้ เราไม่ได้คิดเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไป สมมติว่า เราจะโดนตบ ถ้าเราเล่นแบบรู้ตัวว่าจะโดนตบ นั่นคือการอยู่กับอนาคต ไม่อยู่กับปัจจุบัน ต้องเล่นว่า ฉันไม่รู้ว่าฉันจะโดนตบ นี่คือการเอามาใช้ในงานแสดง หรือว่า เกิดและดับ อันนี้ก็เอามาใช้กับงานแสดงได้เหมือนกัน อย่างนักแสดงบางคนที่เห็นลงข่าวในหนังสือพิมพ์ว่า ร้องห่มร้องไห้หยุดไม่ได้ ต้องให้พี่ๆ เข้ามาปลอบ นั่นไม่ใช่เก่งนะคะ นั่นคือคุณประจานตัวเอง ว่าคุณไม่เป็นมืออาชีพพอ คืออินกับบทน่ะได้ แต่ว่านักแสดงที่ดีจริงต้องตัดบทออกจากชีวิตจริงได้ นี่คือสิ่งเกิดและดับที่พลอยใช้ในการแสดง”

                สิ่งหนึ่งที่เราสังเกตคือ ตลอด 17 ปีที่พลอยอยู่ในวงการบันเทิง มักจะมีข่าวร้ายๆ มารบกวนเธอเป็นระยะ นางเอกสาวที่กำลังยิ้มแย้มอยู่เบื้องหน้าเรานี้ จะเคยเครียดบ้างไหมนะ? “พลอยเครียดทุกครั้งที่มีข่าวลบๆ นั่นแหละค่ะ บางทีเครียดจนร้องไห้กับเพื่อนแบบไม่รู้ตัว ข่าวบางข่าวก็พยายามจะทำให้เราเลวให้ได้ เราทำถูกก็เขียนให้ผิด เข้าวัดก็หาว่าทำแท้ง อันนี้รุนแรงมาก พลอยปวดหัวนะแต่พยายามทำใจ คิดเสียว่า ช่างมัน เรารู้ตัวว่าเราเป็นยังไง ถ้าเราไม่ดีจริง เราอยู่ไม่ได้จนถึงวันนี้แน่ๆ เราคงไม่ได้มีการงานที่ดี ไม่ได้มีชีวิตที่ดี มีความสุขสบาย มีเพื่อนที่ดี มีคนยอมรับเรามากขนาดนี้หรอกถ้าเราเลวระยำอย่างที่ข่าวออกมาน่ะค่ะ

                “พลอยเข้าใจนะคะว่าการอยู่ในวงการบันเทิงเหมือนเราต้องเอาชีวิตส่วนตัวเราเข้าแลก อยู่ตรงนี้คนจ้องจะทำลายตลอด เราอยู่ในที่สว่างแล้วคนในที่มืดก็พร้อมจะทิ่มแทงทุกครั้งที่มีโอกาส ต้องทำใจแล้วก็ต้องใจเย็นให้มากที่สุด แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พลอยจะเป็นตัวของตัวเองเสมอ อย่างที่เห็นกัน พลอยไม่เคยเฟกหรือสร้างภาพ ถ้าใครมาร้ายใส่ก่อน พลอยก็พร้อมจะด่ากลับ แต่ถ้าพลอยผิด พลอยก็ขอโทษ นับตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงาน พลอยก็เป็นตัวของตัวเองมาตลอด ยุคแรกๆ คนหาว่า แรง รับไม่ได้ จนตอนนี้คนยอมรับได้แล้ว แถมยอมรับผลงานเราด้วย ซึ่งพลอยมองว่า ที่พลอยเดินมาถึงจุดนี้ได้เพราะพลอยไม่เคยทิ้งความเป็นตัวเองไป อันนี้สำคัญมาก เหมือนที่เขาสอนว่า คนเราห้ามลืมกำพืด นั่นแหละค่ะ เราอย่าลืมตัวตนของตัวเอง อย่าให้ชื่อเสียงเงินทอง หรือหัวโขนมาเปลี่ยนตัวเรา ถ้าเรารักษาแก่นแท้ของเราไว้ได้ เราจะได้รับการยอมรับเอง”








อดีตเด็กเกเร กับสิ่งที่เธอเรียกว่า ความรักและความสุข

            อย่างที่บอกไว้ว่านักแสดงสาวคนนี้เข้าวงการมา 17 ปีแล้ว เป็นเวลาที่ยาวนานมาก และแน่นอนว่าในช่วงเวลาที่ยาวนานขนาดนี้ เธอต้องผ่านประสบการณ์มาหลายสิ่งหลายอย่างแน่ๆ รวมทั้งประสบการณ์ที่เรียกได้ว่า เกเรสุดๆ นั่นด้วย

                “พลอยว่า ไม่มีใครไม่เคยเกเรนะคะ” เธอกล่าวยิ้มๆ “พลอยยอมรับว่าตัวเองเคยเกเรมาก จะเรียกได้ว่าทำตัวไม่ดีสุดๆ นี่ทำมาแล้ว” แล้วอะไรทำให้อดีตเด็กเกเรคนหนึ่งกลายร่างมาเป็นนางเอกสาวไอดอลของใครหลายคนได้ล่ะ? “มันค่อยๆ เปลี่ยนน่ะค่ะ วงล้อมันค่อยๆ หมุน หมุนจากจุดที่ไม่ดีมาสู่จุดที่ดี ตอนเป็นวัยรุ่นพลอยเที่ยวหนักมาก ยอมรับว่าทำตัวไม่ดีหลายอย่าง แต่พลอยคิดว่าสิ่งที่ทำให้พลอยเจริญได้ทุกวันนี้ก็คือ พลอยไม่เคยทอดทิ้งแม่ พลอยรักและเคารพแม่เสมอ แม่อยากได้อะไรพลอยให้หมดเลย จุดพลิกผันมันไม่ชัดเจน แต่ช่วงอายุหนึ่งเราตื่นขึ้นมาแล้วเรารู้สึกว่าพอแล้วกับชีวิตช่วงนั้น รู้สึกว่าอยากมีสติกับการใช้ชีวิตให้มากขึ้น มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆ เกิด พลอยขอบคุณประสบการณ์เกเรของตัวเอง ที่ทำให้เรานำความผิดพลาดมาเป็นบทเรียนได้ในวันนี้ ถ้าเราไม่รู้จักผิด ไม่รู้จักเส้นทางขรุขระเลย เราคงไม่รู้ว่าเราจะต้องทำยังไงให้ชีวิตสวยงาม”

                ชีวิตสวยงามที่เธอกล่าวถึง คงรวมความถึงหนุ่มคนรักที่เป็นถึงด็อกเตอร์สุดหล่อคนนั้นแน่ๆ เห็นตาเธอเป็นประกายอินเลิฟขนาดนี้ เราเลยกระแซะถามว่า เวลาพลอยตกหลุมรัก เธอจะมีอาการอย่างไร? (จะเหมือนพวกเราไหมนะ)“เวลาตกหลุมรักพลอยจะอารมณ์ดี มีความสุข รู้สึกตื่นเต้นทั้งวัน เวลาได้เจอคนรักก็จะมีความสุข รู้สึกปล่อยวาง เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งความรักกับคนปัจจุบันก็ดีค่ะ เขายอมรับเราได้ และเราก็ยอมรับเขาได้ พลอยมองว่าการยอมรับซึ่งกันและกันเป็นอะไรที่ยากมากเลย แต่ถ้ายอมรับได้แล้ว มันจะเป็นอะไรที่มีความสุขมาก เรารู้สึกโล่งใจ เราได้ปลดปล่อย ถ้าต้องอยู่กับใครสักคนแล้วต้องพยายามทำทุกอย่างให้เขาชอบนี่ เหนื่อยนะ

                “หลักในการดูแลความรักของพลอยก็คือ ปล่อยไปตามธรรมชาติ หรือเรียกว่า ไม่มีหลัก นั่นเอง ถ้ารักกันจริงๆ ทุกอย่างจะออกมาเอง เราจะรู้ว่าเราควรทำยังไง รักมันไม่มีกฎเกณฑ์อยู่แล้ว เราทำตามใจเราอย่างที่เรารู้สึก มันจะดีเอง” เธอเสนอมุมมองในการดูแลความรักให้เราฟัง เราเลยอยากรู้ว่า เวลาคบหากับคนรัก เธอตั้งกฎเหล็กอะไรไว้บ้างไหม? “กฎมีข้อเดียว คือขอแค่ให้เขามีตาไว้มองเราคนเดียวพอค่ะ” แหม...ช่างเป็นกฎสั้นๆ ที่ผู้หญิงทุกคนปรารถนาให้เกิดขึ้นเสียนี่กระไร

                คงต้องยอมรับว่า นางเอกสาวคนนี้มักมีข่าวคราวและได้ออกเดทกับหนุ่มสุดหล่อในฝันของสาวๆ จนชวนตาร้อนผ่าวอยู่เสมอ เธอรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้บ้างนะ “สาวๆ ก็ชอบคิดอย่างนี้แหละว่าพลอยโชคดีที่ได้เดทผู้ชายหล่อๆ ในฝัน ทำไมไม่คิดอีกด้านว่า ผู้ชายเขาโชคดีที่ได้พลอยเป็นแฟนบ้าง” เธอตอบยิ้มๆ “พลอยว่า ผู้หญิงเราควรต้องภูมิใจในตัวของตัวเองนะคะ ไม่เกี่ยวหรอกว่าเราจะได้เดทหนุ่มหล่อหรือไม่ เรามีความสุขเวลาได้เดทกับคนที่เรารัก นั่นก็พอแล้ว” แล้วเพราะการเป็นตัวของตัวเองหรือเปล่า ที่ทำให้เธอได้เดทกับหนุ่มในฝันของเราเสมอ “ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่พลอยมองว่า ผู้หญิงจะมีเสน่ห์สุดๆ เวลาที่เธอเป็นตัวของตัวเอง มันดึงดูดให้คนสนใจเรา แล้วเวลาที่เป็นตัวของตัวเอง ผู้หญิงจะดูเซ็กซี่มากในเวลานั้น”

เรามองดูนาฬิกา...ผ่านมาเกือบ 1 ชั่วโมงแล้วกับบทสนทนาอันแสนอิ่มเอมที่เราได้แลกเปลี่ยนกับเธอ และก่อนที่จะจากกัน เราอยากรู้จังว่า เคล็ดลับการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของสาววัย 28 ปีที่แสนจะเป็นตัวเองคนนี้คืออะไร? “เคล็ดลับของพลอยคือ มีความสุขกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามักจะมองข้าม เมื่อก่อนพลอยชอบมองหาความสุขจากข้างนอก แต่ตอนนี้พลอยเอาวิธีการใช้ชีวิตแบบคนญี่ปุ่นมาใช้ คนญี่ปุ่นเขาจะเห็นคุณค่ากับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างงานประดิษฐ์หรือเลี้ยงสัตว์ เขาจะใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยพวกนี้ ซึ่งมันดีมากเลย เราควรมีความสุขกับสิ่งรอบตัวที่เรามี อย่าไปคิดว่าคนอื่นมีสมบัติเยอะๆ แล้วเราต้องมีตาม พยายามหาความสุขจากอะไรที่เราชอบ อยู่บ้านเบื่อๆ ก็ลุกมาจัดบ้าน เอาหนังสือมาเช็ดถู ไปเดินเล่นในตลาดสวนรถไฟ ซื้อเสื้อผ้าวินเทจตัวละร้อยบาท ไปเดินกินข้าวข้างถนนกับเพื่อน วิ่งเล่น วาดรูป ทำอาหาร หรือดูหนัง แค่นี้พลอยก็มีความสุขแล้วล่ะ ความสุขมีอยู่เยอะแยะรอบตัวมนุษย์ แต่บางทีมนุษย์ก็หาไม่เจอเพราะมัวแต่จะเอาอย่างอื่นเท่านั้นเอง”

                เธอปิดท้ายด้วยประกายตาและรอยยิ้มที่บ่งบอกว่ามีความสุขจริงๆ จากหัวใจ






_________________________________________










ทิปความสุขและความงามจากพลอย

  1. หลัง 1 ทุ่ม ไม่ควรกินข้าวหรือเติมแป้งให้ร่างกายแล้ว หาผลไม้และโยเกิร์ตไขมันต่ำกินแทน รวมถึงหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีน้ำตาลเยอะๆ เช่น มะม่วงสุก หรือทุเรียน
  2. พักผ่อนให้เพียงพอ จัดสรรเวลาให้ดี ถ้าพลอยว่างจากกองถ่ายเมื่อไหร่จะนอนพักทันที
  3. ทุกอย่างมี เกิดและดับ เราควรใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ถ้าเครียดมากก็ร้องไห้ จากนั้นให้ปล่อยวาง
  4. ความสุขอยู่รอบตัวจริงๆ วันว่างๆ แค่ลุกมาจัดบ้านให้สวยงามตามอย่างนิตยสารแต่งบ้าน ก็ทำให้เราแฮปปี้ได้แล้ว หรือจะนัดเพื่อนไปกินอะไรอร่อยๆ  พลางเดินเล่นสวนสาธารณะ แค่นี้ก็สุขแล้วค่ะ
  5. พลอยไม่มีนิยามให้กับความรัก รักก็คือรัก
  6. เป็นตัวของตัวเองนี่แหละมีเสน่ห์และเซ็กซี่สุดๆ หนุ่มคนไหนก็ชอบ
  7. เจอหนุ่มถูกใจ ให้รีบขอเบอร์ไปเลย พลอยก็ทำ โอกาสที่คนเราจะได้เจอคนถูกใจมันน้อยจะตาย แค่ขอเบอร์ไม่ได้ไปทำอนาจารเสียหน่อย ขอไปเหอะค่ะ เขาให้ก็ดี ถ้าไม่ให้ก็ไม่เห็นจะเป็นไร สาวยุคใหม่ กล้าๆ หน่อยนะคะ





_________________________________________________________




สิ่งที่ชื่นชอบ และความสุขน้อยนิดมหาศาล ของพลอย



  • พี่หมิว ลลิตา, พี่นก สินจัย, พี่ตุ๊ก ญาณี, พี่มาช่า, มาดอนน่า, อลิซาเบธ เทย์เลอร์, และเจ้าหญิงเกรซ เคลลี่ เหล่านี้คือชื่อของผู้หญิงที่พลอยชื่นชม พวกเธอทั้งเป็นตัวของตัวเองและเปี่ยมด้วยสไตล์

  • รู้สึกดีมากเวลามีคนบอกว่าชอบผลงานการแสดงของเรา แต่รู้สึกไม่ค่อยดีเวลาคนเรียกเราว่า ดารา เพราะพลอยเป็น นักแสดง ค่ะ

  • กลิ่นที่ชอบสุดๆ คือ กลิ่นดอกกระดังงา เห็นร่วงอยู่เป็นไม่ได้ ต้องหยิบขึ้นมาดมทุกครั้ง

  • เสียงที่ชอบฟัง คือเสียงผู้กำกับสั่ง คัท และ ปิดกล้องแล้ว

  • โปรดปรานสีพาสเทลมากๆ ค่ะ ชอบสีพาสเทลทุกเฉดสีเลย

  • ดอกไม้ที่ชอบคือดอกเดซี่ และก็ดอกกุหลาบสีพาสเทล ยิ่งเวลาได้รับเป็นช่อนี่จะชอบมาก

  • สถานที่โปรดคือ เกาะทางใต้ค่ะ แถบทะเลอันดามันนี่พลอยชอบหมด

  • บทในฝันที่อยากเล่นคือ บทเรื่อง ล่า ที่พี่นก สินจัย เคยเล่นไว้ หวังว่าถ้าโตกว่านี้จะมีคนนำมารีเมคและเราได้เล่น

  • หนังที่ชอบดู เป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้ เช่น 50 First Dates, There’s Something About Mary, หรือ My Best Friend’s Wedding

  • หนังสือเล่มโปรดคือ ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก : Why Men Love Bitches’ ที่พี่กาละแมร์ แปล น่ารักปนตลก มันไม่ใช่หนังสือที่สอนให้ผู้หญิงสำส่อนหรืออ่อยผู้ชายนะคะ แต่ว่าสอนให้เรารักตัวเอง แล้วยืนยันกับเราว่า “เป็นตัวของเราเองนี่แหละ ดีที่สุดแล้ว” อีกเล่มที่ชอบคือ ผลงานการ์ตูนของ พี่ตั้ม-วิศุทธิ์ พรนิมิตร 





No comments: